IMF ยังเชื่อมั่นในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง แม้มีการนำบิตคอยน์มาใช้ โดยคาดว่า GDP ของประเทศจะเติบโตขึ้น 2.2% ภายในปีนี้ แต่เตือนให้ระวังความเสี่ยงสภาพคล่อง
นับตั้งแต่ที่มีการนำบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) มาใช้งานในฐานะเงินถูกกฎหมายในประเทศเมื่อ 1 ปีที่แล้ว สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (Central African Republic: CAR) ก็ได้รับความคิดเห็นเชิงบวกจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ในด้านโอกาสทางเศรษฐกิจและผลกระทบของการเปิดรับบิตคอยน์ของประเทศ
โดยทาง IMF ได้เผยแพร่รายงานที่กล่าวถึงมุมมองที่ดีขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของ CAR ในปี 2023 ซึ่งรายงานดังกล่าวระบุว่า การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ที่แท้จริงของ CAR ที่คาดการณ์โดย IMF จะดีดตัวกลับขึ้นมา 2.2% ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยบางอย่าง เช่น การปรับนโยบายที่นำไปสู่อุปทานเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และ IMF ยังได้คาดว่า อัตราเงินเฟ้อของ CAR จะอยู่ที่ 6.3% โดยเฉลี่ยในปีนี้ด้วยเช่นกัน
รายงานดังกล่าวของ IMF ยังระบุด้วยว่า IMF คาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะของ CAR จะยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม IMF ได้ชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ของความเสี่ยงจากสภาพคล่อง ซึ่งแสดงให้เห็นโดยดัชนีชี้วัดความเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้อง โดยความเสี่ยงเหล่านี้มาจากการที่ประเทศอาจขาดแคลนเงินสนับสนุนจากผู้บริจาคและความยากลำบากในการเข้าถึงตลาดในประเทศและตลาดในภูมิภาค
CAR กลายเป็นประเทศที่สองของโลกต่อจากประเทศเอลซัลวาดอร์ในการอนุญาตให้นำบิตคอยน์มาใช้ได้ในประเทศในฐานะสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ แม้ว่า CAR จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แต่ขณะนี้ CAR ก็กำลังใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์ในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจของตนอยู่
โดยหลังจากที่บิตคอยน์ถูกประกาศให้เป็นเงินถูกกฎหมายใน CAR ได้ไม่นาน รัฐบาลของ CAR ก็ไม่รอช้าที่จะวางรากฐานสำหรับการรองรับสกุลเงินดิจิทัล โดยประธานาธิบดีของ CAR อย่าง Faustin-Archange Touadera ได้เปิดตัวโปรเจกต์ด้านคริปโตที่ชื่อว่า Sango Project เพื่อนำประเทศเข้าสู่โลกของสกุลเงินคริปโต
ผู้เขียน สุวิชา หรุ่งเป้า
บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง
