ธนาคารกลางอาร์เจนตินาสั่งห้ามบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินและสถาบันการเงินให้บริการชำระเงินด้วยคริปโตบนแอปพลิเคชันชำระเงินเพื่อลดความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบชำระเงิน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอาร์เจนตินา (Central Bank of Argentina) ได้ประกาศห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินเสนอบริการหรืออำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโตผ่านแอปพลิเคชันการชำระเงินโดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลต่อระบบการชำระเงินของประเทศ

โดยมาตรการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินและสถาบันทางการเงินในอาร์เจนตินาต้องตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์แบบเดียวกัน ถึงกระนั้น ณ ตอนนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า มาตรการดังกล่าวนั้นจะส่งผลต่อภาคคริปโตของอาร์เจนตินาอย่างไร

สำนักข่าวท้องถิ่นในอาร์เจนตินารายงานว่า Cámara Argentina Fintech ซึ่งเป็นสภาเทคโนโลยีด้านการเงินของอาร์เจนตินาได้มีการเรียกร้องให้ทางรัฐบาลพิจารณาถึงการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สร้างโอกาสและผลประโยชน์หลายอย่างให้แก่สังคม

อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีการใช้งานสกุลเงินคริปโตอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) ในประเทศ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของอาร์เจนตินารายงานว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของประเทศได้ทะยานจากเดือนก่อนหน้านั้นที่ 102.5% สู่ 104.3% ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

ยิ่งไปกว่านั้น สกุลเงินเปโซอาร์เจนตินายังอ่อนค่าลงเกือบ 50% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาด้วย และท่ามกลางวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ หลายเมืองในอาร์เจนตินาจึงเริ่มใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์หลบภัย (Safe Haven) โดยในเดือนธันวาคมปี 2022 รัฐ San Luis ได้อนุมัติให้มีการออกสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin ประจำรัฐได้เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่นำไปใช้งาน

นอกจากนี้ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนอย่าง Chainalysis ยังได้รายงานว่า ผู้บริโภคในอาร์เจนตินาเกิน 30% ใช้งาน Stablecoin สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยพวกเขามักจะใช้ Stablecoin ในการทำธุรกรรมสำหรับรายย่อยขนาดเล็กที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ผู้เขียน สุวิชา หรุ่งเป้า

บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง