DCG บริษัทแม่ของ Genesis Capital เปิดเผยว่า การชำระหนี้ของ Genesis อาจล่าช้า หลังเจ้าหนี้กลุ่มหนึ่งปฏิเสธข้อตกลงเดิมและได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่
เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา Digital Currency Group (DCG) บริษัทแม่ของ Genesis Capital บริษัทด้านคริปโตที่ล้มละลาย ได้ออกมาเปิดเผยผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter ว่า การชำระหนี้ของ Genesis อาจเกิดปัญหา หลังมีเจ้าหนี้ได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่
ทั้งนี้ ข้อตกลงการชำระหนี้ดั้งเดิมของ Genesis จะทำให้เหล่าเจ้าหนี้ควรจะได้รับเงินคืน 80% ของจำนวนเงินที่เสียไปหลังบริษัทประสบภาวะล้มละลาย อย่างไรก็ตาม DCG ระบุว่า การที่เจ้าหนี้ของ Genesis ได้ยื่นข้อเรียกร้องใหม่ดูเหมือนจะทำให้ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องสะดุดลง
โดยทาง DCG ได้ออกมากล่าวว่า ทางบริษัทยังคงมีความมุ่งมั่นในการหาทางออกที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และทางบริษัทจะคำนึงถึงข้อเรียกร้องใหม่ ๆ เมื่อเทียบกับข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน และยังได้กล่าวด้วยว่า “เรามิอาจทราบได้ว่า เจ้าหนี้จำนวนกว่าแสนรายทราบถึงความคืบหน้าในครั้งนี้หรือไม่ แต่แผนการล่าสุดจะทำให้กระบวนการในชั้นศาลยืดเยื้อออกไปอีก”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา Genesis ได้มีการยื่นล้มละลายตามบทบัญญัติที่ 11 (Chapter 11 Bankruptcy) ต่อศาลในเขตทางใต้ของรัฐนิวยอร์ก โดยทางบริษัทคาดการณ์ว่า บริษัทมีหนี้ที่เป็นเงินและสินทรัพย์อยู่ที่อย่างละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 10 พันล้านดอลลาร์
โดย Genesis เป็นหนึ่งในบริษัทที่โดนหางเลขจากวิกฤตการณ์สภาพคล่องครั้งใหญ่ในตลาดคริปโตซึ่งมีต้นตอมาจากการล่มสลายของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง FTX โดยบริษัทอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาในวงการคริปโตประกอบไปด้วยบริษัทผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโตอย่าง Celsius, กองทุนคริปโตชื่อดังอย่าง Three Arrows Capital (3AC) และแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง Gemini
ผู้เขียน สุวิชา หรุ่งเป้า
บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง