นักพัฒนาบล็อกเชนเชื่อ ChatGPT ยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่อาชีพนักพัฒนาได้ แม้สามารถตรวจจับช่องโหว่ในสัญญาอัจฉริยะบน Ethereum ได้ เหตุยังต้องรับข้อมูลจากมนุษย์อยู่
โมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) รุ่นล่าสุดของแชตบอต ChatGPT อย่าง GPT-4 ได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนมากมายทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา หลังสามารถทำคะแนนสอบทางวิชาชีพและวิชาการอยู่ในเกณฑ์ระดับสูงหลายวิชา
ซึ่งนอกเหนือจากคะแนนที่สูงแล้ว GPT-4 ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการระบุช่องโหว่ของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) บนบล็อกเชน Ethereum พร้อมทั้งแนะนำวิธีที่จะโจมตีช่องโหว่ของสัญญาอัจฉริยะได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ จึงมีหลายคนตั้งคำถามขึ้นมาว่า GPT-4 จะสามารถเข้ามาทำงานแทนที่นักพัฒนาได้หรือไม่ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาจำนวนหนึ่งกลับไม่คิดเช่นนั้น เช่น Salman Arshad นักพัฒนาบล็อกเชนที่เข้าร่วมงานประชุม ETHDubai กล่าวว่า “เครื่องมือ ChatGPT และ AI เป็นเหมือนพรจากสวรรค์ พวกมันไม่ใช่ศัตรูกับเรา และไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฆ่าอาชีพของนักพัฒนา”
นอกจากนี้ Arshad ยังกล่าวอีกว่า ฐานความรู้ที่กว้างขวางของ ChatGPT คือจุดแข็งของมัน แต่เครื่องมือดังกล่าวก็ยังต้องการให้มนุษย์ป้อนข้อมูลนำเข้าสำหรับข้อความและตรรกะทางธุรกิจแบบเฉพาะทางอยู่ดี ซึ่งข้อดีของการใช้งาน ChatGPT คือ นักพัฒนาสามารถทำงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลงโดยใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ในทำนองเดียวกัน Syed Ghazanfer ผู้พัฒนาบล็อกเชนอีกราย ยังได้เน้นย้ำถึงลักษณะการทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ของ ChatGPT ซึ่งยังคงมีประโยชน์ต่อผู้ใช้หลากหลายกลุ่มมากกว่าที่จะเป็นภัยคุกคามของการที่อาจจะเข้ามาสร้างกระบวนการทำงานโดยอัตโนมัติและแทนที่แรงงานมนุษย์ได้ โดย Ghazanfer กล่าวว่า “ผมชอบ ChatGPT มาก หากมันจะมาแทนที่คุณได้จริง ๆ แสดงว่าคุณจะต้องสื่อสารด้วยคำสั่งอื่นที่ไม่ได้อยู่ในภาษาอังกฤษดั้งเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเราคิดค้นภาษาโปรแกรมขึ้นมา”
ผู้เขียน สุวิชา หรุ่งเป้า
บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง
