นักวิเคราะห์เชื่อ การเปิดประเทศของจีนอาจช่วยให้เศรษฐกิจแคนาดาไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เหตุอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ของแคนาดาอาจเพิ่มขึ้น

การเปิดประเทศของประเทศจีนมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นอุปสงค์ของสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมากที่ผลิตในแคนาดา ด้วยเหุตนี้ จึงอาจช่วยให้เศรษฐกิจไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยตราบเท่าที่อุปสงค์ดังกล่าวไม่ได้นำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อและการอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดา 

โดยเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของประเทศแคนาดาได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4.5% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 15 ปี อีกทั้งยังกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศจะหยุดชะงักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ด้วยเหตุนี้ ทางธนาคารกลางจึง มีแผนที่จะพักการขึ้นดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว ซึ่งกลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกที่พักการขึ้นดอกเบี้ย

ถึงกระนั้น นักวิเคราะห์กลับกล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นอาจกระตุ้นความต้องการสำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญของแคนาดา เช่น น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, เมล็ดพืช, ธัญพืช และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เศรษฐกิจของแคนาดาอาจจะดำเนินต่อไปได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย

ด้าน Joseph Abramson ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนในแคนาดาอย่าง Northland Wealth Management กล่าวว่า “เรากำลังเห็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศจีนได้จริง ๆ จากการเติบโตที่คาดการณ์เอาไว้, สภาพคล่อง และการใช้จ่ายทางการเงินที่กำลังเพิ่มขึ้นที่นี่ โดยสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาและหุ้นของบริษัทในแคนาดาได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนไปเต็ม ๆ” 

นับตั้งแต่มีข่าวการเปิดประเทศของจีนในเดือนธันวาคม 2565 นักลงทุนก็พากันซื้อขายหุ้นบริษัทในแคนาดาและสกุลเงินดอลลาร์แคนาดาจนราคาของสินทรัพย์เหล่านี้เพิ่มขึ้น โดยตลาดหุ้นมาตราฐานที่มีหุ้นพลังงานและเหมืองแร่ประมาณ 30% เพิ่มขึ้นเกือบ 8% ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์แคนาดาแข็งค่าขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ด้าน Doug Porter หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BMO Capital Markets ธนาคารเพื่อการลงทุนในแคนาดา กล่าวว่า การเปิดประเทศของจีนดูจะเป็น “ผลประโยชน์เชิงบวกที่ชัดเจน” สำหรับประเทศแคนาดามากกว่าประเทศอื่น ๆ ที่สินค้าโภคภัณฑ์ส่งออกน้อยกว่า ซึ่งนับตั้งแต่จีนเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดของมาตรการ Covid-19 มูลค่าของการส่งออกน้ำมันของแคนาดาก็เพิ่มขึ้นมากถึง 17.9% ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะดิ่งลงคืน

อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นจากการเปิดประเทศของจีนก็อาจกระตุ้นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่ Tiff Macklem ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา มีความกังวลหลังตัดสินใจหยุดชะงักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นมีแนวโน้มที่จะเกิดจากภาคบริการมากขึ้น ดังนั้น พวกเขาจึงไม่คิดว่า การฟื้นตัวดังกล่าวจะทำให้เกิดวิกฤติราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน 

ผู้เขียน ธีราภรณ์ สินธุสิงห์

บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง