ผลวิจัยของ Recap ชี้ ลอนดอนเป็นเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจด้านคริปโต โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น จำนวนบริษัทและตู้ ATM คริปโต
นอกเหนือจากกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อคริปโตแล้ว การให้การยอมรับคริปโตในวงกว้างก็จำเป็นต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงและลงทุนในคริปโตได้ หากพิจารณาตัวชี้วัดสำคัญต่าง ๆ แล้วก็พบว่า กรุงลอนดอนแห่งสหราชอาณาจักร ถูกจัดเป็นเมืองที่มีความพร้อมมากที่สุดในโลกสำหรับธุรกิจและบริษัทสตาร์ตอัปที่เกี่ยวกับคริปโตในปี 2566
ล่าสุดวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร Rishi Sunak ที่ต้องการจะทำให้อุตสาหกรรมด้านบริการทางการเงินของประเทศนั้นเป็นผู้นำด้านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เป็นรายแรก ๆ ดูเหมือนว่าจะเริ่มกลายเป็นจริงแล้ว โดยผลการวิจัยของบริษัทผู้พัฒนาแอปด้านการคำนวณภาษีคริปโตอย่าง Recap ชี้ว่า ลอนดอนเป็นเมืองที่มีความพร้อมสำหรับการทำธุรกิจด้านคริปโตมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยเมืองชั้นนำของโลกอย่างดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่อยู่ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับดับ อย่างไรก็ตาม เมืองที่ครองอันดับ 1 ในปี 2565 อย่างฮ่องกงกลับร่วงไปอยู่อันดับ 7 แทน
ปัจจัยสำคัญที่งานวิจัยชิ้นดังกล่าวนำมาพิจารณาประกอบด้วยตัวชี้วัดสำคัญ 8 ประการ ได้แก่ จำนวนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต, จำนวนตำแหน่งงานด้านคริปโต, จำนวนบริษัทด้านคริปโต, ตู้ ATM คริปโต, คุณภาพชีวิต, การใช้จ่ายด้านการวิจัยและการพัฒนาต่อผลผลิตมวลรวมภายในประเทศในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP), อัตราภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ รวมถึงอัตราการเป็นเจ้าของคริปโตในประเทศต่าง ๆ อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ผลการวิจัยดังกล่าวยังชี้ว่า ลอนดอนกลายเป็นเมืองที่มีคนงานด้านคริปโตมากที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้สามารถบอกได้ว่า ประชาชนทั่วไปในเมืองมีความสนใจในคริปโตมากกว่าที่อื่น อย่างไรก็ตาม เมืองอื่น ๆ กลับเอาชนะลอนดอนได้ในบางด้าน เช่น อัตราการใช้คริปโต ดังนั้น นี่จึงเป็นสัญญาณที่บอกว่า คริปโตกำลังถูกนำไปใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก
ผู้เขียน ธีราภรณ์ สินธุสิงห์
บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง