Worldometer เว็บไซต์รวบรวมสถิติแบบเรียลไทม์ที่ประเมินจำนวนประชากรโลกโดยอาศัยข้อมูลจากรายงาน “แนวโน้มประชากรโลกประจำปี 2565” ของสหประชาชาติ (United Nations: UN) เผยให้เห็นว่า จำนวนประชากรโลกครบ 8 พันล้านคนแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจาก 4 พันล้านคนในปี พ.ศ. 2517 หรือราว 48 ปีที่แล้ว 

Worldometer เสริมอีกว่า ในปีนี้ อัตราการเติบโตต่อปีของจำนวนประชากรโลกอยู่ที่ราว 0.84% แต่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง เท่ากับว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีก 15 ปีถึงจะมีจำนวนประชากรโลกครบ 9 พันล้านคน และจะครบ 10 พันล้านคนในปี พ.ศ. 2623 

นอกจากประชากรโลกแล้ว การใช้สกุลเงินคริปโตก็เติบโตขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ถึงกระนั้น ในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีตัวเลขจำนวนผู้ใช้สกุลเงินคริปโตทั่วโลกที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ แต่มีการประเมินจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น GWI บริษัทวิจัยตลาด เสนอว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกอายุระหว่าง 16-64 ปีจำนวนมากถึง 10.2% เป็นเจ้าของคริปโต และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อและวิกฤตค่าเงินประจำชาติผันผวน

ส่วนบริษัทบล็อกเชนในประเทศสิงคโปร์อย่าง TripleA ประเมินว่า อัตราการเป็นเจ้าของคริปโตทั่วโลกในปีนี้อยู่ที่ราว 4.2% โดยมีผู้ใช้มากกว่า 320 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งสหรัฐฯ มีจำนวนผู้ใช้คริปโตมากที่สุดโดยอยู่ที่ 46 ล้านคน รองลงมาคืออินเดีย, ปากีสถาน และไนจีเรียตามลำดับ ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รายการพอดแคสต์เกี่ยวกับบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) อย่าง Blockware Solutions ทำนายว่า อัตราการใช้บิตคอยน์ทั่วโลกจะแตะ 10% ภายในปี พ.ศ. 2573

ในขณะที่รายงานที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอย่าง “Geography of Cryptocurrency (ภูมิศาสตร์แห่งสกุลเงินคริปโต)” ประจำปี 2565 ของ Chainalysis บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ชี้ให้เห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีการใช้สกุลเงินคริปโตโดยรวมมากที่สุด รองลงมาคือฟิลิปปินส์, ยูเครน, อินเดีย และสหรัฐฯ ตามลำดับ ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวกลับไม่ได้ระบุจำนวนผู้เป็นเจ้าของคริปโตแต่อย่างใด