Twitter จะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่ Elon Musk กุมอำนาจเบ็ดเสร็จแล้ว? วันนี้เราจะมาฟังความเห็นจากบรรดาผู้บริหารบริษัทด้านบล็อกเชนและผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโตกัน
หลังจากที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 7 เดือนนับตั้งแต่ที่ Elon Musk ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ได้ยื่นข้อเสนอการเข้าซื้อหุ้นบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง Twitter ด้วยเม็ดเงินจำนวน 44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในที่สุดข้อเสนอดังกล่าวก็ลงเอยได้ด้วยดีแม้จะมีเรื่องบาดหมางกันระหว่างทางบ้างก็ตาม และ Musk กลายเป็นเจ้าของ Twitter คนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว
ด้านชุมชนคริปโตก็พร้อมใจกันออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับ Twitter ในอนาคตภายใต้การนำของ Musk กันเป็นทิวแถว เนื่องจากแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของผู้คนในวงการบล็อกเชน โดย Changpeng Zhao (CZ) ผู้บริหารแพลตฟอร์มคริปโตระดับโลกอย่าง Binance กล่าวที่งานประชุม Web Summit Lisbon 2023 ในสัปดาห์นี้ว่า ฟีเจอร์แรกที่เขาอยากจะให้ Twitter เพิ่มเข้าไปก็คือ การชำระเงินด้วยสกุลเงินคริปโต
ทั้งนี้ Binance ก็ได้เข้าร่วมลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ในการเข้าซื้อ Twitter ของ Musk ด้วย ซึ่ง CZ เคยกล่าวถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของการลงทุนดังกล่าวว่าเป็นเพราะ ตัวเขานั้นสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเล็งเห็นถึงโอกาสในการทำเงินของ Twitter
นอกจากนี้ CZ ยังได้ร่วมวงสนทนาระหว่าง Musk และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อย่าง Alexandria Ocasio-Cortez บน Twitter เกี่ยวกับการที่ผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิก Twitter ที่มีค่าบริการ 8 ดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อแสดงความเห็นได้อย่างเสรี ซึ่งเป็นแผนการที่ Musk เสนอ โดย CZ ตอบทวีตของ Ocasio-Cortez ว่า “เสรีภาพ และราคาที่ฟรี เป็นแนวคิดคนละอย่างกัน คุณเลือกที่จะไม่จ่ายเงินและใช้ Twitter ต่อได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องใช้เลย การหวังว่าจะได้ใช้เครื่องมือที่คนอื่นเขาคิดขึ้นมาฟรี ๆ ไม่ใช่ตลาดเสรี”
ด้าน Hayden Adams ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มคริปโตกระจายศูนย์อย่าง Uniswap และ Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มคริปโตอย่าง FTX กังวลเรื่องโครงสร้างที่รวมศูนย์ของ Twitter โดย Adams เกรงว่า Twitter จะจัดการสแปมได้ยากเนื่องจากถูกควบคุมโดยบริษัทเดียว และเจ้าตัวอยากให้ Twitter มีส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์ (Application Program Interface: API) และให้นักพัฒนาทำงานบนช่องทางดังกล่าว คนอื่น ๆ จะได้เข้ามาแก้ปัญหาสแปมให้ได้ด้วย โดย Bankman-Fried เสริมอีกว่า เขาอยากให้ Twitter มีเลเยอร์แบบ API กระจายศูนย์ที่บริษัทต่าง ๆ เชื่อมต่อกันซึ่งสามารถส่งข้อมูลได้ทั่วโลกโดยทันที
ผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเชน Ethereum อย่าง Vitalik Buterin ยังร่วมพูดถึงทิศทางของ Twitter ภายใต้การนำของ Musk ด้วย โดยเขากังวลว่า ค่าธรรมเนียม 8 ดอลลาร์อาจจะส่งผลเสียต่อฟีเจอร์ต่อต้านสแปมของ Twitter Blue ซึ่งเป็นบริการเสียเงินรายเดือนที่ให้สิทธิ์เข้าถึงฟีเจอร์พิเศษของ Twitter นอกจากว่าจะมีการตรวจสอบตัวตนที่มากขึ้น พร้อมกันนี้ เขายังอยากให้ Twitter มีฟีเจอร์ที่กระจายศูนย์มากขึ้นแต่ยังได้รับการควบคุม โดยเขาเสนอให้ Twitter ควรจะมีการพิสูจน์ตัวตนโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูล (Zero-Knowledge Identity Check) และใช้ตารางคะแนนชี้วัดคุณภาพของบัญชีผู้ใช้เพื่อป้องกันมิจฉาชีพในชุมชนคริปโตบน Twitter
ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง
บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์