นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ-อังกฤษ, ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ, อัตราเงินเฟ้อ EU สัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงิน


สัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัวเลขที่ส่งผลต่อตลาดการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) และธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England: BoE) รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ (Non-Farm Payrolls) รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน ดังนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงตัวเลขเหล่านี้กันว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้างเพื่อเตรียมรับมือกับตลาดอย่างรอบคอบ

ตัวเลขแรกคือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed นักวิเคราะห์คาดว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรง 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ ในขณะที่นักลงทุนก็เตรียมจับตาสัญญาณการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในอนาคต โดยตลาดการเงินคาดว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนธันวาคม และจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% อีก 2 ครั้งในการประชุมช่วงต้นปีหน้า

ตัวเลขที่สองคือ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม โดยลดลงจาก 263,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ในขณะที่อัตราการเติบโตของค่าจ้างรายชั่วโมง (Average Hourly Earnings) จะชะลอลงมาบ้าง 

ตัวเลขที่สามคือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoE ซึ่งมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทะลุ 10% ถึงแม้ว่าประเทศกำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจจะแย่ลงอีกจากแผนการลดค่าใช้จ่ายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่าง Rishi Sunak 

ตัวเลขที่สี่คือ ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน โดยยูโรโซนเตรียมที่จะปล่อยรายงานอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคมในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.2% เลยทีเดียว โดยเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรปเพิ่งจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% นอกจากนี้ ผู้กำหนดนโยบายยังส่งสัญญาณว่า จะดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อด้วย


ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง

บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์, สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล 


เผยแพร่เมื่อ : 2022-10-31 18:46:58

อดใจรอหน่อยนะ

หน้าที่คุณค้นหา
ยังไม่เปิดให้บริการ ณ ขณะนี้