เคยสังสัยไหมว่า ทำไมตลาดคริปโตยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ทั้ง ๆ ที่ตลาดหุ้นก็ดีดตัวขึ้นบ้างแล้ว บทความนี้จะพาท่านผู้อ่านไปหาคำตอบของคำถามดังกล่าวกัน


เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ราคาของบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) และสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ ยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันบิตคอยน์พยายามที่จะรักษาแนวรับที่ระดับ 19,000 ดอลลาร์ต่อ BTC ไว้ โดยการดิ่งลงของคริปโตเหล่านี้สวนทางกับตลาดหุ้นที่ดัชนี Dow Jones และดัชนี S&P500 ได้ปรับตัวขึ้นทั้ง ๆ ที่เป็นที่รู้กันดีว่า ตลาดคริปโตและตลาดหุ้นนั้นเคลื่อนไหวสอดคล้องกันมาก 

โดยบิตคอยน์มักจะเคลื่อนไหวตามดัชนี Dow Jones และดัชนี S&P500 อยู่บ่อย ๆ ทว่าในสัปดาห์นี้บิตคอยน์กลับดิ่งลงสวนทางตลาดหุ้นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น วันนี้เราจะพาไปดู 3 สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังของคำถามที่ว่า “ทำไมราคาคริปโตถึงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้?”

สาเหตุแรกคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve: Fed) การขึ้นดอกเบี้ยจะเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมของประชาชน ผลที่ตามมาคือ ต้นทุนการดำเนินธุรกิจ และต้นทุนของเกือบทุกสรรพสิ่งจะเพิ่มขึ้นด้วย โดยสาเหตุหลักของการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ก็คือ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น นับตั้งแต่ที่ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บิตคอยน์และตลาดคริปโตส่วนใหญ่ก็เข้าสู่ช่วงการปรับฐาน

เมื่อนโยบายการเงินและเครื่องมือที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป สินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวก่อนหุ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว Fed เริ่มส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย และบิตคอยน์ก็เข้าสู่ช่วงปรับฐานในช่วงปลายปี ดังนั้น ก็อาจจะพูดได้ว่า บิตคอยน์และคริปโตเปรียบเสมือนสัญญาณล่วงหน้าที่บ่งชี้แนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น

สาเหตุที่สองคือ พิษภัยจากการกำกับดูแล อุตสาหกรรมคริปโตเป็นเสมือนไม้เบื่อไม้เมาในสายตาของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งมีสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจและไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน การที่อุตสาหกรรมคริปโตไม่มีกรอบกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพก็ทำให้แต่ละประเทศมีนโยบายด้านคริปโตที่ขัดแย้งกัน โดยความคลุมเครือด้านการกำกับดูแลดังกล่าวมีผลในแง่ลบต่อการเติบโตและการสร้างนวัตกรรมในอุตสาหกรรมคริปโต

นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า การใช้คริปโตในวงกว้างจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าหากว่าอุตสาหกรรมคริปโตยังไม่มีการประกาศใช้ชุดกฎหมายที่สอดคล้องกันทั่วโลก ไม่เพียงเท่านั้น อารมณ์ของตลาดยังมีบทบาทสำคัญต่อราคาคริปโตด้วย ดังนั้น กรอบกำกับดูแลที่ไม่เป็นมิตรต่อคริปโตยังคงมีผลต่อราคาคริปโตเกือบทุกเดือน

สาเหตุที่สามคือ การหลอกลวงและแชร์ลูกโซ่ที่ทำให้เกิดการเทขายสินทรัพย์และสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในปีนี้ ข่าวและเหตุการณ์ร้ายทึ่ส่งผลเสียต่อสภาพคล่องของตลาดมักจะนำไปสู่หายนะเนื่องจากตลาดคริปโตไม่มีการกำกับดูแล เป็นอุตสาหกรรมใหม่ และมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น

การล่มสลายของระบบนิเวศ Terra และแพลตฟอร์มให้กู้ยืมคริปโต Celsius รวมถึงการที่กองทุนคริปโตอย่าง Three Arrows Capital (3AC) ได้นำผลตอบแทนและเงินของลูกค้าไปใช้ในทางที่ผิดล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้สินทรัพย์คริปโตดิ่งลงในเวลาไล่เลี่ยกัน ตัวอย่างเช่น ราคาบิตคอยน์ปรับฐานอย่างรุนแรง เนื่องจากเกิดการเทขายสินทรัพย์ดังกล่าวในระบบนิเวศ Terra ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจึงลดลง


ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง

บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล


เผยแพร่เมื่อ : 2022-10-12 18:03:07

อดใจรอหน่อยนะ

หน้าที่คุณค้นหา
ยังไม่เปิดให้บริการ ณ ขณะนี้