สำนักพิมพ์ Pearson เล็งแปลงโฉมหนังสือเรียนดิจิทัลของบริษัทเป็น NFT ตั้งเป้าติดตามการซื้อขายและหารายได้เพิ่มเติมจากตลาดหนังสือเรียนมือสอง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาว่า Andy Bird ผู้บริหารสูงสุดของ Pearson สำนักพิมพ์หนังสือวิชาการในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จ่อแปลงหนังสือเรียนดิจิทัลของบริษัทให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token (NFT) เพื่อติดตามการขายและโกยรายได้จากตลาดหนังสือเรียนมือสอง
Bird หวังว่า ทางบริษัทจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี NFT เพื่อเก็บค่าคอมมิชชั่นจากการขายหนังสือเรียนของบริษัทในตลาดหนังสือเรียนมือสองได้ โดยนักศึกษามักจะนำหนังสือเรียนที่บริษัทตีพิมพ์ไปขายต่อให้กับนักศึกษาด้วยกันเอง ซึ่งแต่ละเล่มมักจะมีการขายต่อถึงเจ็ดครั้งเลยทีเดียว
“เทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนและ NFT จะทำให้เรามีส่วนร่วมในการขายสินค้าชิ้นใดก็ตามได้ทุกเมื่อตราบเท่าที่สินค้าชิ้นดังกล่าวยังใช้งานได้อยู่ ผมคิดว่า โอกาสในการมีส่วนร่วมกับรายได้ที่เกิดขึ้นในภายหลังนั้นน่าสนใจมากเลยทีเดียว” เขาเผย
นอกจากนี้ Bird ยังเสริมด้วยว่า บริษัทของตนนั้นจะศึกษาโลกเสมือน Metaverse เพื่อหาวิธีใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า “เรามีทีมงานทั้งทีมที่กำลังพยายามศึกษาผลกระทบของ Metaverse และสิ่งที่เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถมอบให้เราได้”
อย่างไรก็ดี นักวิชาการบางส่วนกลับไม่เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าวของ Bird ตัวอย่างเช่น Zane Griffin Talley Cooper นักวิจัยจากบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Intel ที่ออกมาทวีตวิจารณ์แผนการของ Bird ว่าเป็น “การตีพิมพ์ทางวิชาการที่ขูดรีดเงินจากคนตัวเล็ก” แต่เขายอมรับว่า NFT มีแนวโน้มที่จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงดังกล่าว พร้อมกับเสริมว่า “เราต้องมาจับตามองสิ่งนี้กันอย่างระมัดระวังต่อไป”
ในอีกฟากหนึ่ง นักวิเคราะห์เทคโนโลยีอย่าง Ian Cutress กลับไม่เชื่อว่า Pearson จะใช้เทคโนโลยี NFT จริง ๆ โดยเขาทวีตว่า “NFT ในที่นี้เป็นแค่คำฮิตติดหูเฉย ๆ” และ NFT ที่ Pearson พูดถึงเป็นแค่โคดที่ผู้ซื้อหนังสือมือสองจะต้องจ่ายเงินซื้อเพื่อนำไปใช้เปิดอ่านหนังสือดิจิทัลของพวกเขาเท่านั้น
ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล