ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวันแนะใช้ CBDC ที่ไม่มีดอกเบี้ยเงินฝากในโครงการนำร่องของประเทศ หวั่นเงินดิจิทัลเข้ามาแทนที่เงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนกิจกรรมทางการเงินสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา สำนักข่าวในไต้หวันอย่าง bnext.com รายงานว่า Chin-long Yang ผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน (Central Bank of the Republic of China) ได้แนะนำให้ใช้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ของประเทศโดยไม่มีดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับโครงการนำร่อง CBDC ของประเทศ
โดย Yang ให้เหตุผลว่า CBDC ที่มีดอกเบี้ยจากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลอาจจะเข้ามาแทนที่เงินฝากที่เป็นเงินตราอย่างดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (New Taiwan Dollar: NT$) ในธนาคารต่าง ๆ ในไต้หวันได้ อีกทั้งยังเสริมว่า “เมื่อเงินฝากของธนาคารลดลง จะทำให้ต้นทุนของกิจกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน และด้วยเหตุนี้ จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินสำหรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นด้วย”
นอกจากนี้ Yang ยังเสริมอีกว่า ในช่วงที่การเงินไร้เสถียรภาพ CBDC ที่ไร้ดอกเบี้ยยังสามารถทำให้เกิด “การแห่ถอนเงินดิจิทัลออกจากธนาคาร” ได้ และอาจลุกลามอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นวิกฤติสภาพคล่องสำหรับสถาบันการเงิน ถึงกระนั้น เขาก็ตระหนักถึงความต้องการใช้ช่องทางการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“สัดส่วนของการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากการชำระเงินทั้งหมดในไต้หวันเพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2017 เป็น 60% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 นี้ ดังนั้น เป็นไปได้ที่ความต้องการของประชากรในแง่ของการใช้ CBDC ที่มีรูปแบบการชำระเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ ไม่มีค่านายหน้า ไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต และไม่มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจะเพิ่มสูงขึ้น” Yang กล่าว
โครงการนำร่อง CBDC ของไต้หวันกำลังอยู่ในระยะที่ 2 ซึ่งธนาคารกลางได้แจกจ่าย CBDC ให้กับธนาคารไต้หวันที่ได้รับคัดเลือก 5 แห่งด้วยกันเพื่อนำไปกระจายต่อให้กับผู้บริโภค โดยผลการทดลองของโครงการดังกล่าวชี้ว่า เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ในโครงการไม่สามารถรองรับธุรกรรมของผู้บริโภคที่มีปริมาณมากและมีความถี่สูงได้ รวมถึงยังมีเรื่องของการที่ระบบชำระเงินหยุดทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับอีกด้วย แต่ธนาคารกลางไต้หวันยังคงจะเดินหน้าสู่ระยะต่อ ๆ ไปของโครงการ
ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล