สำนักงานสอบสวนของสหรัฐ หรือ FBI ประกาศจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต
Facebook | FBI (Federal Bureau of Investigation)รองอัยการสูงสุดสหรัฐฯ นามว่า Lisa Monaco แถลงว่า สำนักงานสอบสวนของสหรัฐฯ (Federal Bureau of Investigation: FBI) จะระดมกำลังเพื่อแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมา
ณ ที่ประชุมด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ประจำเมือง Munich (Munich Cyber Security Conference) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ Monaco กล่าวว่า FBI ได้จัดตั้ง “ทีมชำนาญการพิเศษเพื่อดูแลเงินคริปโต” ที่ชื่อว่า Virtual Asset Exploitation Unit โดยหน่วยงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโต รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์บล็อกเชนที่จะนำไปใช้ติดตามและยึดเงินทุนที่ผิดกฎหมาย
Monaco กล่าวว่า “มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) และการรีดไถเงินดิจิทัลก็เหมือนกับอาชญากรรมคริปโตประเภทอื่น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนร้ายได้รับเงิน จึงหมายความว่า เราต้องทำลายแบบจำลองธุรกิจของพวกนั้น” ไม่เพียงเท่านั้น เธอย้ำว่า “แม้สกุลเงินดังกล่าวจะเป็นสิ่งเสมือน แต่ข้อความที่ส่งให้บริษัทต่าง ๆ นั้นเป็นรูปธรรม ถ้าคุณแจ้งให้เราทราบ เราก็สามารถติดตามเงินให้คุณได้ และไม่เพียงแค่ช่วยคุณ แต่ยังป้องกันเหยื่อรายต่อไปได้ด้วย”
ปัจจุบัน FBI กำลังสืบสวนมัลแวร์เรียกค่าไถ่ประเภทต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้ายึดสกุลเงินคริปโตได้ นอกจากการระดมกำลังต่อสู้กับอาชญากรรมไซเบอร์ Monaco ยังได้กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เตรียมเปิดโครงการ International Virtual Currency Initiative ซึ่งจะนำไปสู่ “การร่วมมือกันมากขึ้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย” โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อติดตามเงินผ่านบล็อกเชน และกระตุ้นให้เกิดการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือมากขึ้น
ทีม Virtual Asset Exploitation Unit นี้จัดตั้งขึ้น 4 เดือนหลังจากที่ Monaco ได้จัดตั้งทีมบังคับใช้กฎหมายคริปโตแห่งชาติ (National Cryptocurrency Enforcement Team) โดยทีมดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ นอกจากนี้ Monaco ยังเผยว่า อดีตที่ปรึกษาระดับอาวุโสของเธออย่าง Choi Eun Young จะมารับหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาของทีมอีกด้วย โดยทั้งสองทีมจะทำงานร่วมกันเพื่อตามล่าผู้ที่ “นำคริปโตไปใช้ก่ออาชญากรรม”
ก่อนที่จะมีการก่อตั้งทีม National Cryptocurrency Enforcement Team ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจก็ได้ยึดเงินคริปโตมูลค่ามากกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐคืนมา ซึ่งเป็นค่าไถ่จากเหตุการณ์โจมตีระบบไซเบอร์ของบริษัท Colonial Pipeline ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการท่อขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ ไม่เพียงเท่านั้น หน่วยปฏิบัติการดังกล่าวยังเคยยึดบิตคอยน์มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสั่งจับกุมคนร้าย 2 รายที่เกี่ยวข้องกับคดีแฮกแพลตฟอร์มคริปโต Bitfinex ในปี 2016
ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล, สกรรจ์ ศิริวงษ์
