อดีตหัวหน้าทีมวิจัย CBDC ของธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับการนำสกุลเงินเยนดิจิทัลมาใช้ เหตุอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงิน
เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Japan Times รายงานว่า Hiromi Yamaoka อดีตหัวหน้าแผนกการชำระหนี้ทางการเงินของธนาคารกลางแห่งประเทศญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) ผู้ซึ่งเคยทำหน้าที่นำทีมวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ได้ออกมากล่าวต่อต้านการนำสกุลเงินเยนดิจิทัลของ BOJ มาใช้ตามนโยบายทางการเงินของประเทศ
ซึ่งสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับ Yamaoka มากที่สุดก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ และเขายังเชื่อว่า เมื่อเยนดิจิทัลกลายมาเป็นเครื่องมือสำหรับการชำระเงินในวงกว้างแล้ว ประชาชนทั่วไปก็จะต้องแบกรับความเสียหายจากการที่มูลค่าของเงินเยนลดลง โดยเขาก็เตือนว่า เยนดิจิทัลนั้นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินและอาจสร้างหายนะให้กับเศรษฐกิจได้
ในเดือนตุลาคมปี 2020 ทาง BOJ ได้เผยแพร่แผนการทดลองใช้ CBDC ซึ่งมีสามระยะ โดยสองระยะแรกจะเป็นการทดสอบความเป็นไปได้ (Proof of Concept) ในขณะที่ระยะที่สามจะเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งระยะแรกได้เริ่มต้นไปเมื่อเดือนเมษายนปี 2021 และจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมปีนี้ ส่วนระยะที่สองจะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยจะมีการทดสอบเชิงเทคนิคเกี่ยวกับการออกสกุลเงินเยนดิจิทัลด้วย
ในขณะที่ Haruhiko Kuroda ผู้ว่าการของ BOJ เผยในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2022 ที่ผ่านมาว่า ทาง BOJ ยังไม่มีแผนเปิดตัวเงินเยนดิจิทัลเร็ว ๆ นี้ โดยอาจจะเปิดตัวภายในปี 2026 ทั้งนี้ การตัดสินใจในการเปิดตัวก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ BOJ ฝ่ายเดียว
นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคมปี 2020 ทาง BOJ ยังได้เผยแพร่รายงานการค้นคว้าเกี่ยวกับการพัฒนา CBDC แบบออฟไลน์อีกด้วย เนื่องจากการที่ภาคการชำระเงินในประเทศหันมาให้ความสำคัญกับธุรกรรมแบบออฟไลน์ด้วยเหตุผลที่ว่า ประเทศญี่ปุ่นนั้นมักเกิดภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้พลังงานถูกตัดขาด ส่งผลให้การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ขัดข้อง
ผู้เขียน สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล
บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์
