ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์เผย ราคาของบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นมหาศาลเหตุมีจำนวนไม่พอหากเศรษฐีทั่วโลกต้องการถือคนละ 1 BTC

เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา Nayib Bukele ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ได้ออกมาทำนายอนาคตของบิตคอยน์ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ราคาของบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด พร้อมกับพูดถึงจำนวนของบิตคอยน์ที่มีอยู่อย่างจำกัด อันจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาเพิ่ม “บนโลกนี้มีเศรษฐีเงินล้านมากกว่า 50 ล้านคน ลองนึกดูว่า เศรษฐีเหล่านี้ตัดสินใจว่า พวกเขาควรจะถือบิตคอยน์อย่างน้อยคนละหนึ่งบิตคอยน์ แต่ว่าบิตคอยน์นั้นมีอยู่แค่ 21 ล้านบิตคอยน์ มีไม่พอให้ครึ่งหนึ่งของเศรษฐีเหล่านั้นถือด้วยซ้ำ ราคาของเหรียญจะเพิ่มขึ้นมหาศาลแน่ ๆ ไม่ช้าก็เร็ว” ข้อความทวีตของเขาระบุ

ก่อนหน้าที่ Bukele จะออกมาทวีตข้อความดังกล่าวไม่นาน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ได้แนะนำรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ให้ยกเลิกการใช้บิตคอยน์เป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในประเทศ เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินและความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งคำแนะนำดังกล่าวของ IMF ออกมาหลังจากที่ราคาบิตคอยน์ร่วงลงกระทันหัน โดยลดลงไปราว ๆ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงระหว่างวันที่ 20 ถึง 25 มกราคมที่ผ่านมา

ซึ่งการร่วงลงของราคาบิตคอยน์ในครั้งนี้ทำให้เอลซัลวาดอร์ขาดทุนครั้งใหญ่จากการถือบิตคอยน์ โดยรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ซื้อบิตคอยน์ครั้งแรกจำนวน 200 BTC ที่ราคา 52,000 ดอลลาร์ต่อ 1 BTC เมื่อวันที่ 6 กันยายนปีที่แล้ว ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม ก็ซื้อเพิ่มอีก 420 BTC ตอนที่ราคาอยู่เหนือ 58,000 ดอลลาร์ จากนั้นก็ซื้อเพิ่มอีกจำนวนหนึ่งในเดือนพฤศจิกายนและกลางเดือนธันวาคมที่ราคาราว ๆ 54,000 และ 49,000 ดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่ง ณ เวลาที่เขียนข่าวนี้ ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ 38,525.75 ดอลลาร์

---