สองบุคคลผู้มีชื่อเสียงในประเทศรัสเซีย ออกมาวิจารณ์การเสนอแบนคริปโตของธนาคารกลาง ชี้ แบนไปก็เท่านั้น แถมจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยี
จากการที่ธนาคารกลางรัสเซียได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคมที่ผ่านมาเพื่อเสนอให้มีการสั่งห้ามการซื้อขายและขุดสกุลเงินคริปโตภายในประเทศ โดยให้เหตุผลว่า คริปโตนั้นมีความเสี่ยง “สูงมากกว่าในตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย” ก็ดูเหมือนว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง อีกทั้งยังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากบุคคลผู้มีชื่อเสียงในประเทศหลายราย รวมถึง Pavel Durov ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มส่งข้อความอย่าง Telegram และ Leonid Volkov หัวหน้าคณะหาเสียงของ Alexei Navalny แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียและผู้ก่อตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต (Anti-Corruption Foundation: FBK)
โดยทาง Durov พูดถึงการสั่งห้ามใช้คริปโตดังกล่าวว่าจะ “ทำลายหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยีขั้นสูง” เขาเสริมว่า “การสั่งห้ามนี้จะชะลอการพัฒนาของเทคโนโลยีบล็อกเชนในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามายกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของกิจกรรมหลาย ๆ อย่างของมนุษย์ตั้งแต่การเงินไปจนถึงศิลปะ” นอกจากนี้ เขายังอธิบายว่า เป็นปกติที่หน่วยงานที่ดูแลด้านการเงินต้องการที่จะกำกับดูแลการหมุนเวียนของสกุลเงินคริปโต ทว่าการสั่งห้ามเช่นนี้จะขัดขวางเพียงแค่โครงการคริปโตที่ถูกกฎหมายเท่านั้น โดยมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถกำจัดโครงการที่เล่นไม่ซื่อได้
ในขณะที่ Volkov ก็ได้โพสต์ข้อความบน Telegram ในวันเดียวกับที่ธนาคารกลางเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการสั่งห้ามใช้คริปโตดังกล่าว ซึ่งข้อความของเขากล่าวว่า การสั่งห้ามนี้เป็น “การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา” โดยเขาได้กล่าวถึงรายงานของสำนักข่าว Bloomberg ที่เผยแพร่ออกมาในวันเดียวกัน ซึ่งอ้างว่า หน่วยความมั่นคงกลาง (Federal Security Service: FSB) ของรัสเซียมีบทบาทสำคัญมากในการทำให้การสั่งห้ามดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากสกุลเงินคริปโตนั้นสามารถใช้ในการสนับสนุนเงินทุนให้กับ “พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามนอกระบบและองค์กรที่มีแนวคิดสุดโต่ง” ซึ่งเขามั่นใจว่า รายงานดังกล่าวนี้ใกล้เคียงความเป็นจริง แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนื่องจากชาวรัสเซียมีแนวโน้มที่จะใช้คริปโตซื้อยาเสพติดมากกว่านำไปบริจาคให้ FBK
“ในทางทฤษฎี การสั่งห้ามสกุลเงินคริปโตก็ไม่ต่างอะไรจากการสั่งห้ามการโอนเงินจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง แน่นอนว่า พวกเขาสามารถทำให้การนำเงินทุนเข้าไปในแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตเป็นเรื่องที่ยากมากได้ ซึ่งหมายความว่า ผู้ให้บริการเป็นตัวกลางจะต้องให้บริการผ่านกฎหมายของต่างประเทศ และแน่นอนว่า ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมก็จะสูงขึ้น ผมว่าน่าจะมีแค่นี้นะ” Volkov กล่าว
ผู้เขียน สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล
บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์