คนในวงการคริปโตร่วมกันแบ่งปันมุมมองต่อบิตคอยน์เนื่องในโอกาสที่สกุลเงินคริปโตดังกล่าวมีอายุครบ 13 ปีบริบูรณ์
วันนี้ (4 มกราคม) เมื่อ 13 ปีที่แล้ว สกุลเงินคริปโตสกุลแรกของโลกอย่างบิตคอยน์ถูกขุดเป็นครั้งแรก ถือเป็นการฉลองการมีอายุครบ 13 ปีอย่างเป็นทางการหลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็เพิ่งฉลองการมีอัตราขุด (Hash Rate) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ไป โดยในโอกาสนี้ ผู้มีบทบาทในวงการคริปโตหลายรายก็ได้ออกมาพูดให้มุมมองเกี่ยวกับเหรียญคริปโตเหรียญนี้ รวมถึงอนาคตของเหรียญอีกด้วย
Beimnet Abebe รองประธานด้านการแลกเปลี่ยนเงินต้น (Principal) ของบริษัท Galaxy Digital กล่าวว่า “13 ปีที่แล้ว บิตคอยน์ได้เปิดตัว ถึงแม้ว่าการกำเนิดเหรียญจะได้รับการพูดถึงจากสื่อเพียงน้อยนิด โดยดึงดูดเพียงแค่สายตาและความสนใจของกลุ่มคนไม่กี่คนที่เข้าใจเรื่องดังกล่าวเท่านั้น การเปิดตัวของเหรียญก็ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เพราะเหรียญนี้ทำให้ใครก็ตามที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกสามารถเข้าถึงเงินดิจิทัลที่มีจำกัดได้เป็นครั้งแรกและเปิดประตูสู่โพรโทคอลที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนเว็บไซต์แบบฉบับต่อไปในเวลาต่อมา”
Hassan Bassiri รองประธานด้านการบริหารพอร์ตการลงทุนประจำบริษัท Arca Funds กล่าวว่า “บิตคอยน์ก็คือยาเสพติดซึ่งเป็นเหมือนประตูเชื่อมที่ทำให้ทุกคนมองเห็นว่า จริง ๆ แล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลยิ่งใหญ่ขนาดไหน ยิ่งระบบนิเวศของบิตคอยน์เติบโตและกลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลกำไรมากขึ้นในด้านการกู้ยืมและผลตอบแทน เราก็สามารถคาดหวังได้ว่า จะยิ่งมีบริษัท งานวิจัย และโอกาส หลั่งไหลเข้ามาสู่สกุลเงินคริปโตและบล็อกเชนอื่น ๆ มากขึ้น”
Laura Vidiella นักวางกลยุทธ์ด้านการพัฒนาธุรกิจและอดีตรองประธานด้านการขายเชิงสถาบัน (Institutional Sales) ของบริษัท Paradigm กล่าวว่า “ระบบนิเวศของบิตคอยน์จะเติบโตต่อเนื่องในด้านผลิตภัณฑ์และเงินทุนในปี 2022 อีกทั้งบริษัทแบบดั้งเดิมก็จะใช้เงินทุนมากขึ้นไปกับการลงทุนด้วยกลยุทธ์สร้างผลตอบแทนที่ตนคุ้นเคย เนื่องจากมีการขายอนุพันธ์และหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structured Product) เพิ่มขึ้น”
Ian Kane ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Unbanked กล่าวว่า “การกำเนิดของเหรียญนี้อยู่เหนือเส้นแบ่งเขตเวลา เส้นแบ่งประเทศ และรัฐบาล รวมถึงทำให้คนหลายล้านคนทั่วโลกมีอำนาจทางการเงิน นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของมนุษย์ในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ และคน ๆ นั้น (หรือคนกลุ่มนั้น) ซึ่งอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกก็สามารถสร้างสิ่งที่มีแรงกระทบที่ใหญ่โตกว่าตัวพวกเขาเอง อีก 13 ปีข้างหน้านี้จะยิ่งมีอิทธิพลกว่า 13 ปีที่ผ่านมาเพราะทุกคนจะเคลื่อนที่เข้าหามาตรฐานบิตคอยน์”
ผู้เขียน สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล