ธนาคารกลางฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่า โครงการนำร่องใช้งาน CBDC ของตนประสบความสำเร็จ แต่ยังไม่รับประกันว่าจะเปิดให้ใช้งานสกุลเงินได้ในอนาคต
วันพุธที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศฝรั่งเศส Banque de France (BdF), BIS Innovation Hub (BISIH) และธนาคารแห่งชาติสวิส Swiss National Bank (SNB) ได้ประกาศความสำเร็จของโครงการนำร่องใช้งานสกุลเงินของธนาคารกลางสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงิน (Wholesale Central Bank Digital Currency) หรือ wCBDC ที่ชื่อว่า Project Jura โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยเงินยูโรและฟรังก์สวิสในรูปแบบ wCBDC
เทคโนโลยีที่ทดลองใน Project Jura ประกอบด้วยเครือข่าย Peer‑to‑Peer ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (Computer Nodes) แบบกระจายศูนย์ หรือเทคโนโลยี Corda เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ในขณะเดียวกันก็ทำให้แน่ใจได้ว่ากระบวนการนี้ถูกต้องตามกฎหมาย กฎระเบียบและกฎเกณฑ์ทางธุรกิจทั้งหมด หลังจากนั้นก็จะมีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงเงินตรา (Fiat) สกุลยูโรและฟรังก์สวิสให้อยู่ในรูปแบบโทเคน และตราสารพาณิชย์ Negotiable European Commercial Paper ซึ่งเป็นตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (หนึ่งปีหรือน้อยกว่า) ในรูปแบบสกุลเงินยูโร และสุดท้าย Project Jura ยังมองหาเครือข่ายพื้นฐานที่จะช่วยเปิดใช้งานระบบชำระเงินที่สำเร็จเสร็จสิ้นทันทีทีละรายการธุรกรรม (Real-Time Gross Settlement of Transactions), การแปลงพันธบัตรให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และการลงทะเบียนสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการทดลองจะประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าทางการฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ หรือสหภาพยุโรปจะเปิดตัวเหรียญ wCBDC ออกมาจริง ๆ ในรายงานสรุปว่า “wCBDC อาจสามารถผนวกเข้ากับข้อตกลงใหม่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของตลาดทุน ตลาดเงิน และตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้”
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า “การขยายขอบเขตการใช้เงินของธนาคารกลางหรือการโอนเงินข้ามพรมแดนที่เพิ่มมากขึ้น สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านี้ได้ เช่นเดียวกับการรวมสกุลเงินเข้ากับสินทรัพย์และหลักทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ”
ผู้เขียน ธัญภา สุขีวรรณ
บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์
