ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Tesla ขายหุ้นจำนวน 934,000 หน่วยเหตุเพราะภาระการชำระภาษี
Elon Musk ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทชื่อดังอย่าง Tesla ได้ปล่อยขายหุ้นจำนวนหนึ่งของบริษัท โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน แบบฟอร์มบนเว็บไซต์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ ก.ล.ต. (Securities and Exchange Commission: SEC) แห่งสหรัฐอเมริกาได้ยืนยันการขายหุ้นของ Tesla กว่า 934,000 หน่วยซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ราคาหุ้นโดยเฉลี่ยที่ Musk ตั้งขายนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,170 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 180% ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนี่ถือเป็นการปล่อยขายหุ้นครั้งที่ 3 และเป็นการปล่อยขายครั้งที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ที่ Tesla เข้าสู่ตลาด Nasdaq ในปี 2010
รายละเอียดในการปล่อยขายหุ้นดังกล่าวเผยว่า Musk วางแผนที่จะขายหุ้นของบริษัทเนื่องจากภาระด้านการจ่ายภาษีในเดือนกันยายน นอกจากนี้ Musk ได้จัดทำแบบสอบถามในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากับผู้ติดตามบัญชี Twitter ของเขาจำนวน 63 ล้านรายโดยตั้งคำถามว่าเขาควรจะขายหุ้นจำนวน 10% ของ Tesla หรือไม่ เกือบ 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 3.5 ล้านรายระบุว่าควร อย่างไรก็ตาม การที่ Musk ปล่อยขายหุ้นของ Tesla ในครั้งนี้คิดเป็นเพียง 1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Tesla และเขาก็ยังคงถือหุ้นบริษัทไว้กว่า 170 ล้านหน่วย
ไม่เพียงเท่านั้น Musk ได้ระบุเพิ่มเติมในแบบสอบถามดังกล่าวว่า “ผมไม่ได้รับเงินเดือนหรือโบนัสจากที่ไหนเลย ผมมีแค่หุ้นเท่านั้น ดังนั้น วิธีเดียวที่ผมจะจ่ายภาษีส่วนตัวได้ก็คือการขายหุ้น”
ในวันที่ 10 พฤศจิกายน หนึ่งวันหลังจากที่แบบสอบถามดังกล่าวสิ้นสุด ราคาหุ้นของ Tesla ลดลง 16% โดยราคาลดลงไปเหลือต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐอยู่ช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ลดลงประมาณ 11% จากราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 1,230 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 4 พฤศจิกายน
ผู้เขียน พีรทัต ลิ้มพันธ์อุดม
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล