COVID-19 กลับมาระบาดออสเตรเลียอีกครั้ง หลายรัฐขยายเวลาล็อกดาวน์ ทำลายหวังหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
ธนาคารกลางประเทศออสเตรเลีย (Reserve Bank of Australia) อาจต้องพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศใหม่อีกครั้ง หลังจากที่ต้องประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศเนื่องจาก COVID-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง
บันทึกรายงานการประชุมหารือนโยบายในวันที่ 6 กรกฎาคมเผยว่า คณะกรรมการนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย มองว่าผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าที่คาดเอาไว้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน ดังนั้นจึงลงมติว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน ธนาคารกลางออสเตรเลียจะลดปริมาณการซื้อตราสารหนี้ต่อสัปดาห์ลงจากเดิมที่ 5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเหลือเพียง 4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มแย่ลงหลังจากที่ออสเตรเลียประกาศล็อกดาวน์รัฐ New South Wales และรัฐ Victoria ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร และพื้นที่ก่อสร้างในเขตพื้นที่รัฐต้องปิดชั่วคราว
มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐ New South Wales ได้ขยายออกไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ในขณะที่รัฐ Victoria ประกาศเพิ่มระยะเวลาล็อกดาวน์ไปอีก 7 วัน ส่วนรัฐ South Australia ตัดสินใจประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมลดลงถึง 5.2% นับเป็นการลดลงที่มากที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 โดยความต้องการซื้อกลุ่มสินค้าประเภทรายการหลักได้รับผลกระทบมากที่สุด
นักวิเคราะห์จากธนาคารเครือจักรภพแห่งประเทศออสเตรเลีย (Commonwealth Bank of Australia) ตั้งข้อสงสัยว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา อาจส่งผลเสียอย่างมากจนทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจไม่ลดปริมาณการซื้อตราสารหนี้ และคงปริมาณไว้ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์เช่นเดิม
Belinda Allen นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก CBA เตือนว่า “สถานการณ์ที่แย่ลงในเขตพื้นที่ Greater Sydney และ Victoria จะทำให้ GDP หดตัวลง ในช่วงไตรมาสที่สาม”
“ปริมาณการหดตัวของ GDP ยังอยู่ในขั้นตอนการประเมิน เนื่องจากความไม่แน่นอนของระยะเวลาการล็อกดาวน์” Allen เสริม “ยิ่งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาระบาดรุนแรงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ต้องคำนึงถึงการเปิดให้ธุรกิจกลับมาทำงานได้แบบปกติมากขึ้นเท่านั้น”
ผู้เขียน พีรทัต ลิ้มพันธ์อุดม
บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์