USDT มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 47.04% ในปีที่แล้วมาสู่ 65.89% ในขณะนี้ พร้อมส่งให้มูลค่าตามราคาตลาดกระโดดไปถึง 83.1 พันล้านดอลลาร์ สวนทาง Stablecoin ตัวอื่น

ในช่วงที่ผ่านมา อัตราส่วนการครองตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Stablecoin ที่มีการอ้างอิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในแนวโน้มของขาลง แต่ Stablecoin ที่ออกโดย Tether บริษัทคริปโตชื่อดัง กลับมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Stablecoin ชื่อดังหลายเหรียญต้องพบกับส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง เช่น USD Coin (USDC) ของบริษัทฟินเทคอย่าง Circle ที่มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 34.88% สู่ 23.05% ในเวลาที่เขียนข่าวนี้ ในขณะเดียวกัน Binance USD (BUSD) ซึ่งเป็น Stablecoin ของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่าง Binance ก็มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 11.68% สู่ 4.18% ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ หรือแม้กระทั่งส่วนแบ่งตลาดของ DAI ที่ออกโดยองค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) อย่าง MakerDAO ก็ร่วงจาก 4.05% สู่ 3.66% ในเดือนพฤษภาคมนี้

ในทางกลับกัน Tether (USDT) ของ Tether กลับครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มมากขึ้นจาก 47.04% ในปีที่ผ่านมาสู่ 65.89% ในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ USDT ยังกระโดดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 83.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Tether ได้รับคำวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการขาดความโปร่งใส โดยในปี 2021 บริษัทถูกสำนักงานอัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์กปรับเงิน 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในข้อหาบิดเบือนจำนวนเงินตราในทุนสำรองของบริษัทที่ใช้หนุนการออก USDT และศาลยังสั่งให้ Tether มีความโปร่งใสด้านการเงินมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม Tether ได้มีการตอบโต้กับคำวิจารณ์เชิงลบบน Twitter ไม่เพียงเท่านั้น ทางบริษัทยังกำลังพยายามที่จะลดความเสี่ยงของตนจากระบบธนาคารด้วยหลังจากที่ธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ได้ล่มสลายไป ซึ่งในรายงานการตรวจสอบบัญชีล่าสุดพบว่า Tether ดึงเงินออกจากธนาคารต่าง ๆ มากกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสแรกของปีนี้ และบริษัทยังมีการถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดใหม่ที่มากกว่า 53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็น 64% ของเงินทุนสำรองทั้งหมดของบริษัท

ทั้งนี้ USDC มีมูลค่าตามราคาตลาดลดลงจากจุดสูงสุดที่ 55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาเหลือเพียง 29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นในตอนนี้ โดย Jeremy Allaire ผู้บริหารสูงสุดของ Circle ได้กล่าวโทษว่า สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะการปราบปรามคริปโตของหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ 

ก่อนหน้านี้ USDC เคยหลุดจากการตรึงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีรายงานว่า Circle เก็บเงินทุนสำรองของบริษัทกว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไว้กับ SVB ที่ถูกหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ สั่งปิด

ผู้เขียน สุวิชา หรุ่งเป้า

บรรณาธิการ เขมชาติ เจิมทอง