หัวหน้าด้านกลยุทธ์ของ Huawei เผย โครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบันไม่เหมาะสมต่อการรองรับ Metaverse จำเป็นต้องปรับปรุงเทคโนโลยีต่าง ๆ อีกมาก เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ต-มือถือ ฯลฯ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา Abhinav Purohit หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาทางธุรกิจและยุทธศาสตร์ประจำภูมิภาคตะวันออกกลางของ Huawei บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ในประเทศจีน ได้เผยแพร่บทความลงบนเว็บไซต์ของบริษัทซึ่งว่าด้วยเรื่องศักยภาพของอุตสาหกรรมโลกเสมือน Metaverse และบทบาทของบรรดาบริษัทโทรคมนาคมในอุตสาหกรรมดังกล่าว

Purohit อธิบายว่า “Metaverse คือพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันแบบเสมือนของส่วนรวม” ที่จะ “ทำให้คนที่อยู่ห่างกันในทางภูมิศาสตร์สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ด้านการรับรู้มิติสัมพันธ์ที่สมจริงได้ซึ่งผสมผสานเนื้อหาเสมือนเข้ากับโลกที่จับต้องได้ของผู้ใช้อย่างราบรื่น” พร้อมทั้งเสริมว่า แนวคิด Metaverse ที่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับกระแสการพัฒนาอินเทอร์เน็ตกระจายศูนย์ Web3 เป็นอย่างมาก เนื่องจากเศรษฐกิจของโลกเสมือนจะถูกขับเคลื่อนโดยสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token (NFT)

อย่างไรก็ตาม Purohit เชื่อว่า การจะทำให้เกิด Metaverse ได้นั้นอาจจะต้องอาศัยการปรับปรุงความเร็วในการดาวน์โหลด คุณภาพการสตรีม อุปกรณ์เคลื่อนที่ ฮาร์ดแวร์สำหรับ Metaverse ฯลฯ อย่างรวดเร็วเพื่อสร้างโลกเสมือนที่ทำงานได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งเสริมว่า การส่งมอบประสบการณ์สุดดื่มด่ำและสมบูรณ์แบบจำเป็นจะต้องพึ่งพาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในหลายด้าน เช่น เทคโนโลยีการบีบอัดวิดีโอ และ Edge Computing (การประมวลผลข้อมูลใกล้เคียงกับตำแหน่งของผู้ใช้หรือแหล่งข้อมูล) 

ไม่เพียงเท่านั้น Purohit ยังเชื่อว่า จำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน Cellular (เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์), กลยุทธ์การควบคุมประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย และการเพิ่มความเร็วในการตอบสนองระหว่างอุปกรณ์และเครือข่ายเคลื่อนที่อีกด้วย พร้อมกับระบุว่า ความล่าช้า (การตอบสนองของเครือข่าย) แบนด์วิดท์ที่สมส่วน (ความเร็วในการส่งข้อมูล) และคุณภาพของประสบการณ์ (ปริมาณการจัดการข้อมูลของเครือข่ายในระยะเวลาหนึ่ง) เป็นปัญหาใหญ่ที่ฉุดรั้งการพัฒนาเครือข่ายต่าง ๆ ของ Metaverse

Purohit กล่าวทิ้งท้ายว่า การใช้เครือข่าย 5G ในระดับมหภาคนั้นจะเพิ่มประสิทธิภาพของแบนด์วิดท์อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ยังลดความล่าช้าในการส่งข้อมูลและการแย่งการใช้งานของเครือข่ายด้วย ในขณะที่ 6G จะเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีกขั้นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว ทั้งนี้ มีรายงานว่า 5G มีความเร็วสูงสุดถึง 1,000 MBps ซึ่งเร็วกว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ ที่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 119.03 MBps เป็นอย่างมาก 

ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง

บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล