Wikimedia Commons | Gage Skidmore

ถึงแม้ว่าภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นเป็นวงกว้าง แต่นักเขียนหนังสือ ‘พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad)’ เล่มดังอย่าง Robert Kiyosaki กลับออกมาบอกว่า ‘ปัญหาที่แท้จริง’ คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลต่างหาก

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ราคาของพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยุโรปทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก กล่าวอย่างง่าย ๆ คือ นักลงทุนยกให้พันธบัตรรัฐบาลเป็นสินทรัพย์หลบภัยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ดังนั้น ราคาพันธบัตรที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นจึงถือเป็นสัญญาณลบต่อเศรษฐกิจนั่นเอง 

ในวันเดียวกันนี้ Kiyosaki ทวีตว่า “ตลาดพันธบัตรใหญ่กว่าตลาดหุ้น 40 เท่า โปรดให้ความสนใจกับพันธบัตร ไม่ใช่หุ้น” อีกทั้งยังเสริมว่า “หายนะครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น ดูแลตัวเองด้วยครับ” ถึงกระนั้น เขาได้เปิดเผยวิธีเตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ดูเหมือนกำลังจะเกิดขึ้นด้วย โดยระบุว่า “ตอนนี้ผมกำลังจะซื้อทองคำและเงิน (Silver) เพิ่ม และกำลังรอให้ราคาของบิตคอยน์ (Bitcoin: BTC) ลดลงกว่านี้อีก”

โดยทองคำนั้นถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่ง่ายที่สุดของ Kiyosaki เนื่องจากสินทรัพย์ประเภทนี้ไม่สามารถพิมพ์ออกมาเฉย ๆ เฉกเช่นเดียวกับเงินตราได้ นอกจากนี้ มูลค่าของทองคำยังมักไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกอีกด้วย

วิธีการลงทุนในทองคำทางตรงคือ การครอบครองทองคำแท่ง ทว่าวิธีการดังกล่าวกลับมีความยุ่งยาก แถมต้องใช้เงินทุนจำนวนมากด้วย ในขณะที่การลงทุนในบริษัทขุดทองรายใหญ่อย่าง Barrick Gold, Newmont และ Freeport-McMoRan นั้นเป็นวิธีที่ง่ายกว่า เนื่องจากเมื่อราคาของทองคำปรับตัวสูงขึ้น บริษัทขุดทองเหล่านี้จะมีรายได้และกำไรมากขึ้น ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

นอกจากทองคำแล้ว เงินยังได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์เก็บมูลค่าและสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้ออีกด้วย ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของเงินจะไม่น่าหลงใหลและเหลืองอร่ามเหมือนทองคำ แต่สินทรัพย์ประเภทนี้ก็มีประสิทธิภาพมากในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน

หนึ่งในวิธีลงทุนในเงินที่ง่ายที่สุดคือ การลงทุนผ่านบริษัทขุดเงินอย่าง Wheaton Precious Metals, Pan American Silver และ Coeur Mining ทั้งนี้ นักลงทุนก็ต้องตระหนักไว้ด้วยว่า เงินเป็นโลหะที่ถูกนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลาย ดังนั้น การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงมีผลต่อราคาของเงิน

ไม่เพียงเท่านั้น บิตคอยน์ยังเป็นอีกหนึ่งประเภทสินทรัพย์ที่ถูกนำไปใช้ในการป้องกันเงินเฟ้อถึงแม้ว่าในปีนี้ราคาของบิตคอยน์จะลดลงอย่างหนักถึง 53% เลยทีเดียว โดยนักลงทุนสามารถซื้อบิตคอยน์เก็บไว้ได้โดยตรง หรือจะลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินคริปโตก็ได้ หากรับความผันผวนเองไม่ไหว 

ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง

บรรณาธิการ สกรรจ์ ศิริวงษ์