รายงานของบริษัท PwC ชี้ ธนาคารกลางมากกว่า 80% สนใจออก CBDC หรือได้ออกไปแล้ว และ CBDC เพื่อรายย่อยพร้อมใช้กว่า CBDC เพื่อรายใหญ่ ส่วนไทยครองแชมป์อย่างหลัง
เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา บริษัทตรวจสอบบัญชีแถวหน้าของโลกอย่าง PricewaterhouseCoopers (PwC) ได้เผยแพร่รายงาน Global CBDC Index ประจำปีครั้งที่สอง ซึ่งเป็นรายงานที่ศึกษาระดับความพร้อมของธนาคารกลางในการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC)
โดย Haydn Jones ผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนประจำสำนักงานใหญ่ของ PwC ในสหราชอาณาจักร ระบุในรายงานว่า ธนาคารกลางมากกว่า 80% สนใจออกหรือได้ออก CBDC ไปแล้วก่อนหน้านี้
รายงานชิ้นดังกล่าวได้จัดลำดับทั้ง CBDC เพื่อรายย่อยซึ่งมีไว้สำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประชาชน และ CBDC เพื่อรายใหญ่ซึ่งมีไว้สำหรับให้สถาบันการเงินถือครอง พร้อมกับจะให้คะแนน CBDC ของแต่ละประเทศจาก 100 คะแนนเต็ม โดยผลจากการศึกษาพบว่า CBDC เพื่อรายย่อยมีความพร้อมมากกว่า CBDC เพื่อรายใหญ่
ส่วน CBDC ที่มีการพัฒนามากที่สุดทั้งในหมวดเพื่อรายย่อยและรายใหญ่คือสกุลเงิน eNaira จากประเทศไนจีเรีย โดยได้คะแนนไปทั้งหมด 95 คะแนน นอกจากนี้ยังมีสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางบาฮามาสอย่าง Sand Dollar ที่โดดเด่นไม่แพ้กันในหมวดเพื่อรายย่อย ซึ่งสกุลเงินดังกล่าวก็เป็น CBDC แรกของโลกที่ถูกนำไปใช้อย่างเป็นทางการ
ส่วนในหมวดเพื่อรายใหญ่นั้น ประเทศไทยและเขตปกครองพิเศษฮ่องกงถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 1 เนื่องจากก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศได้ร่วมกันจัดตั้งโครงการ m-CBDC Bridge ขึ้นมาเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ประเทศสิงคโปร์และประเทศฝรั่งเศสก็ติดอันดับสูงด้วยเช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศเดินหน้าศึกษา CBDC กันอย่างต่อเนื่อง
ในแง่ของความพร้อมของธนาคารกลางทั่วโลกในการออก CBDC นั้น Jones กล่าวว่า “ประเทศต่าง ๆ มีระดับความพร้อมด้าน CBDC ที่ต่างกัน และแต่ละประเทศก็มีปัจจัยด้านแรงจูงใจที่ต่างกัน การเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน การรองรับการชำระเงินระหว่างประเทศ และการควบคุมอาชญากรรมทางการเงินล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยทั้งสิ้น เราหวังว่า การวิจัย CBDC การทดสอบ และการนำไปใช้จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นในปี 2022”
ผู้เขียน เขมชาติ เจิมทอง
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล
