สำนักข่าวในมาเลเซียเผยรัฐบาลลาวจับมือกับ 6 บริษัทในโครงการนำร่องขุดคริปโต คาดสร้างรายได้ให้ประเทศลาวประมาณ 194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มีการคาดการณ์ว่า โครงการนำร่องของรัฐบาลลาวในการทดลองขุดและซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลจะสร้างรายได้ให้กับประเทศประมาณ 194 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากรายได้ภายในประเทศทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้ในปี 2022
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน สำนักข่าว The Star ในประเทศมาเลเซีย รายงานว่ารัฐบาลลาวได้เปิดตัวโครงการนำร่องในการทดลองขุดคริปโตหลังจากที่ประเทศจีนมีการปราบปรามและสั่งห้ามไม่ให้ขุดคริปโตภายในประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าวอาจสร้างรายได้ให้กับประเทศลาวถึง 2 ล้านล้านกีบหรือราว ๆ 194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นรายได้จากบริษัท 6 แห่งที่เป็นบริษัทในโครงการนำร่องการขุดดังกล่าวของภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้รับอนุมัติเมื่อเดือนกันยายน ได้แก่ Wap Data Technology Laos, Phongsubthavy Road and Bridge Construction, Sisaket Construction Company Limited, Boupha Road-Bridge Design Survey, Joint Development Bank และ Phousy Group
นอกจากนี้ มีรายงานว่ารัฐบาลกล่าวว่ากองทุนจะเพิ่มรายได้ที่คาดหวังสำหรับร่างงบประมาณของรัฐสภาในปี 2022 ขึ้นอีก 20% จากปี 2021 ฝ่ายนิติบัญญัติวางแผนที่จะใช้รายได้เสริมดังกล่าวสำหรับ “โครงการที่มีความสำคัญต้น ๆ ของประเทศ” รวมถึงการชำระหนี้ของประเทศและเพื่อรับมือกับโรคระบาดอีกด้วย
ในขณะที่รัฐบาลลาวอนุญาตให้บริษัททั้ง 6 แห่งสามารถทำเหมืองได้ ธนาคารกลางของประเทศได้ออกคำเตือนอยู่หลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุมดูแล ซึ่งส่วนใหญ่ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ในประเทศลาว อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Bank of the Lao P.D.R) กำลังจะร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีด้านบัญชีแยกประเภท (Distributed Ledger Technology) จากญี่ปุ่น Soramitsu ในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง
ผู้เขียน พีรทัต ลิ้มพันธ์อุดม
บรรณาธิการ สิทธิพงศ์ จารุประทีปกุล
